ในบทความที่ตีพิมพ์ใน Integrative Medicine: A Clinician's Journal, Christopher Shade, PhD ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Quicksilver Scientific ได้สรุปวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลัง NMN แบบกระทัดรัด เขาเริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดประเภทความชราเป็นโรค ซึ่งหมายความว่าความชรา ซึ่งรวมไปถึงโรคที่ัสัมพันธ์กับอายุ เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง และการเสื่อมสภาพของระบบประสาท สามารถรักษาได้ด้วยยา
ดังนั้น การจะหายาที่สามารถรักษาความชราได้นั้น จําเป็นต้องมีความเข้าใจในสิ่งที่ทําให้เกิดความชรา และหนึ่งในสารที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่ามีผลต่อความแก่ชรา นั่นก็คือ ระดับ NAD+ ที่ลดน้อยลงเมื่อเราอายุมากขึ้น
แม้ว่าอายุเราจะมากขึ้น แต่ก็ยังโชคดีที่เราสามารถ เพิ่มระดับ NAD+ ให้สูงขึ้นได้ด้วยสารตั้งต้น NAD+ เช่น NMN ซึ่งเมื่อเรารับประทานเข้าสู่ร่างกาย NMN จะถูกแปลงไปเเป็น NAD+ ดังนั้นด้วยฤทธิ์ของ NMN ในฐานะสารที่สามารถต่อต้านความแก่ชราได้ Dr. Shade จึงได้รีวิว เพื่อดูว่า วิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลัง NMN คืออะไร และได้สรุปไว้ที่นี่
NMN ผลิตในร่างกายเราได้อย่างไร?
เราสามารถพบ NMN ในอาหารได้ ในปริมาณเพียงเล็กน้อย เช่น อะโวคาโด บรอกโคลี กะหล่ําปลี ถั่วแระ และแตงกวา ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของวิตามินบี ที่เรียกวา Nicotinamide (NAM) จากนั้นจะเปลี่ยนไปเป็น NMN หัวใจของการสังเคราะห์ NMN คือ เอ็นไซม์ที่เรียกว่า NAMPT (nicotinamide phosphoribosyl transferase) ซึ่งจะแปลง NAM เป็น NMN
ระดับ NAD+ และ NAMPT ทั้งหมดนี้จะลดลงตามอายุ นอกจากนี้ เนื้อเยื่อไขมันของเราจะช่วยควบคุมการสังเคราะห์ NAD+ โดยการหลั่งถุงที่เป็นเมมเบรน ซึ่งภายในจะเต็มไปด้วย NAMPT (เอ็นไซม์ที่ใช้ผลิต NMN) หรือ NMN เอง ถุงเหล่านี้ จะไหลเวียนไปทั่วกระแสเลือดและนำพาเอ็นไซม์ NAMPT และ NMN ไปยังเซลล์ ทําให้เซลล์มีวัตถุดิบและวัสดุที่จําเป็นในการสร้าง NAD+
บทบาทของเซลล์ไขมันในการรักษาระดับ NAD+ ของร่างกายทั้งหมด เซลล์ไขมัน (Fat cells) จะหลั่งถุงที่เป็นเมมเบรนที่เรียกว่า Extracellular vesicles (EVs) ที่บรรจุเอ็นไซม์ NAMPT และ NMN ไว้ EVs จะนํา NAMPT และ NMN ไปยังเซลล์อื่นๆ ซึ่ง NAD+ จะถูกสร้างขึ้นมา โดยเฉพาะเอ็นไซม์ NAMPT จะแปลง NAM ให้เป็น NMN และ NMN จะถูกแปลงต่อไปเป็น NAD+ โดยตรง
Dr. Shade ชี้ให้เห็นว่า ถุงเมมเบรนที่บรรจุ NAMPT และ NMN ซึ่งเรียกว่า extracellular vesicles (EV) สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้ ถุงที่ถูกสังเคราะห์นี้ เรียกว่า ไลโปโซม มักจะถูกนำมาใช้เป็นระบบนําส่งตัวยาเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้น ไลโปโซมที่มี NMN สามารถเลียนแบบกลไกการนำส่งตามธรรมชาติสําหรับ NMN ในร่างกายได้และใช้เป็นยาต่อต้านความแก่ชราที่อาจเกิดขึ้น
มีอีกวิธีหนึ่งที่ NAD+ จะสร้างขึ้นภายในเซลล์ได้คือ จากสารตั้งต้น NAD+ ที่เรียกว่า nicotinamide riboside (NR) ซึ่งจะถูกแปลงเป็น NMN โดยเอ็นไซม์ที่เรียกว่า NRK (nicotinamide riboside kinase) NMN ยังสามารถเคลื่อนที่เข้าสู่เซลล์ได้โดยตรงผ่านตัวนำส่ง ที่เพิ่งจะค้นพบชื่อ Slc12a8 ตัวนำส่ง Slc12a8 พบได้ในเซลล์จํานวนมากทั่วร่างกาย แต่ส่วนใหญ่จะพบอยู่ในเยื่อบุลําไส้ ซึ่งบ่งชี้ว่า แบคทีเรียในลําไส้ของเราผลิต NMN ได้
จากรูปข้างบน การสังเคราะห์ NAD+ ภายในเซลล์ NMN ถูกขนส่งเข้าสู่เซลล์ ผ่านตัวนำส่ง Slc12a8 และ NMN จะถูกแปลงเป็น NAD+ โดยตรง แหล่งที่มาหลักของ NMN ภายในเซลล์คือ นิโคตินาไมด์ (NAM) ซึ่งถูกแปลงเป็น NMN โดยเอ็นไซม์ NAMPT และ nicotinamide riboside (NR) จะถูกแปลงเป็น NMN โดยเอ็นไซม์ NRK
NMN ช่วยเรื่องสุขภาพและต่อต้านความชรา
จากการศึกษาในหนูทดลองได้แสดงให้เห็นว่า NMN มีประโยชน์ในการรักษาภาวะที่สัมพันธ์กับอายุหลายอย่าง รวมถึง โรคอัลไซเมอร์ ซึ่ง NMN จะชะลอการลดลงของ ความรู้ความเข้าใจ (Cognitive) โดยการส่งเสริมการอยู่รอดของเซลล์ประสาท ในหนูที่เป็นโรคเบาหวานและอ้วน NMN ช่วยเพิ่มการหลั่งอินซูลิน ทำให้ลดระดับน้ําตาลในเลือดได้ ซึ่งเรื่องนี้ NMN ช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน นั้นหมายความว่า ทำให้ต้องใช้อินซูลินน้อยลง เพื่อส่งสัญญาณให้ร่างกายลดระดับน้ําตาลในเลือด
นอกจากนี้ NMN ยังช่วยลดการเพิ่มน้ําหนักที่สัมพันธ์กับอายุ, ปรับปรุงการทํางานของดวงตา และเพิ่มการทำงานของกําลังกาย ในระดับเซลล์ NMN ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ เพิ่มพลังงาน ต่อสู้กับความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ลดการอักเสบ และส่งเสริมสุขภาพของไมโตคอนเดรีย NMN ยังช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อของหนูสูงอายุและรักษาความสมบูรณ์ของ blood-brain barrier นอกจากนี้ NMN ยังได้พิสูจน์ให้เห็นว่า มีประโยชน์กับหนูทดลองจากโรคหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง
นอกจากนี้ NMN ยังมีความปลอดภัยและยอมรับได้ดีในหนูทดลอง หลังจากให้รับประทานอาหารเสริม NMN มานานกว่าหนึ่งปี การศึกษาจํานวนมากให้ NMN กับหนูโดยการละลายในน้ําดื่ม อันที่จริง NMN มีความเสถียรในน้ําที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 7 ถึง 10 วัน เมื่อให้หนูกิน NMN ทางปาก, NMN จะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็ว และเพิ่มระดับ NMN ในเลือดภายในเวลาไม่ถึงสามนาที
NMN เพื่อสุขภาพของร่างกาย
ดร. Shin-ichiro Imai ได้กล่าวว่า การกินอาหารเสริม NMN อาจช่วยให้บางคนอายุดูน้อยกว่าสิบหรือยี่สิบปีได้ แต่เขาพูดถูกต้องหรือไม่? ในตอนท้ายของบทความ Dr. Shade ได้กล่าวว่า Dr. Yoshino และทีมงานได้ศึกษา NMN ในมนุษย์ และได้ตีพิมพ์การศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า NMN ช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินในสตรีสูงอายุก่อนเป็นเบาหวาน (R) การทดลอง NMN ในมนุษย์นี้เป็นครั้งแรก ที่แสดงเห็นถึงประโยชน์ของ NMN ที่มีต่อสุขภาพในมนุษย์
Dr. Shade กล่าวต่อว่า ดร. เดวิด ซินแคลร์ ศาสตราจารย์ฮาร์วาร์ดกําลังทําการทดลองในมนุษย์ด้วย และได้ตีพิมพ์การศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า NMN ลดน้ําหนัก ลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตในผู้ใหญ่ที่มีน้ําหนักเกิน นอกจากนี้ การศึกษาในมนุษย์เพิ่มเติม (R) แสดงให้เห็นว่า NMN มีความปลอดภัย ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกาย และปรับปรุงการได้ยินในผู้สูงอายุ
Story Source
Shade, C. (2020). The Science Behind NMN–A Stable, Reliable NAD+Activator and Anti-Aging Molecule. Integrative Medicine: A Clinician’s Journal, 19(1), 12-14. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7238909/
