แสงแดดและวิตามิน D - อันดับ 9 ปัจจัยกระตุ้นการหลั่ง Growth Hormone (GH)
- dr.bunlue
- Apr 29
- 2 min read

แม้ว่าวิตามิน D จะไม่ได้กระตุ้น GH โดยตรงเหมือนการออกกำลังกายหรือนอนหลับ แต่มีบทบาทสำคัญในการทำให้ GH และ IGF-1 ทำงานได้เต็มที่ แสงแดดและวิตามิน D มีความสัมพันธ์กับการทำงานของ Growth Hormone (GH) หรือฮอร์โมนการเจริญเติบโต โดยมีกลไกและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนว่า ทั้ง 2 ปัจจัยอาจมีบทบาทในการกระตุ้นหรือสนับสนุนการหลั่งและการทำงานของ GH ดังนี้:
# 1. วิตามิน D กับการหลั่ง Growth Hormone (GH)
วิตามิน D และ GH/IGF-1 Axis:
วิตามิน D มีผลต่อระบบ GH/IGF-1 (Insulin-like Growth Factor-1) ซึ่งเป็นระบบสำคัญที่ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาของร่างกาย:
วิตามิน D ช่วยเพิ่มการผลิต IGF-1 ในตับและเนื้อเยื่ออื่นๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำงานร่วมกับ GH ในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อ - Nikooyeh et al., 2011 ( https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3166406/)
การขาดวิตามิน D อาจทำให้ระดับ IGF-1 ลดลง และส่งผลต่อประสิทธิภาพของ GH - Giustina et al., 2008 ( https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/18492750/)
Ameri P, et al. (2013) พบว่าการขาดวิตามิน D มีความสัมพันธ์กับระดับ IGF-1 ที่ต่ำลง และระบบ GH-IGF1 ผิดปกติ - PubMed: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/23463782
การศึกษาทางคลินิก:
ในเด็กที่มีภาวะขาดวิตามิน D พบว่า การเสริมวิตามิน D ช่วยเพิ่มระดับ IGF-1 และอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโต - Al Shaikh et al., 2016 ( https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/26712239/)
ในผู้ใหญ่ วิตามิน D อาจช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของกระดูก ซึ่งสัมพันธ์กับระบบ GH/IGF-1.
Mehmood S, et al. (2022) เสริมวิตามิน D แล้วทำให้ระดับ IGF-1 เพิ่มขึ้นในผู้ที่ขาด GH แบบไม่รุนแรง - PubMed Central: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC8949574
Kanbur NO, et al. (2009) การศึกษากลุ่มวัยรุ่น พบว่าเด็กที่มีระดับวิตามิน D ต่ำจะมี IGF-1 ต่ำ และการเจริญเติบโตช้ากว่า - PubMed: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/19861906
# 2. แสงแดดกับวิตามิน D และ GH
แสงแดด (UVB) เป็นแหล่งหลักในการสังเคราะห์วิตามิน D ในผิวหนัง ดังนั้นการได้รับแสงแดดอย่างเหมาะสม อาจช่วยรักษาระดับวิตามิน D ที่เพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อระบบ GH/IGF-1 โดยอ้อม.
นอกจากนี้ แสงแดดอาจมีผลต่อ นาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) ซึ่งจะส่งผลต่อการหลั่ง GH เนื่องจาก GH มักหลั่งมากในช่วง การนอนหลับลึก (โดยเฉพาะในช่วงคลื่นช้า หรือ Slow-Wave Sleep).
# 3. กลไกอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง
การออกกำลังกายกลางแจ้ง: การได้รับแสงแดดมักสัมพันธ์กับการออกกำลังกาย ซึ่งการออกกำลังกายแบบ High-Intensity Interval Training (HIIT) หรือการฝึกความแข็งแรง (Resistance Training) เป็นที่ทราบกันดีว่า ช่วยกระตุ้นการหลั่ง GH.
ผลต่อระบบประสาท: แสงแดดอาจช่วยลดความเครียดและปรับสมดุลฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งหากระดับคอร์ติซอลสูงเกินไปอาจยับยั้งการหลั่ง GH.
# 4. ข้อควรระวัง
การได้รับแสงแดดมากเกินไป อาจทำให้ผิวหนังถูกทำลายและเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้นควรได้รับแสงแดด ประมาณ 10-30 นาที/วัน (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและพื้นที่ทางภูมิศาสตร์).
การเสริมวิตามิน D ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม (ประมาณ 600–2000 IU/วัน ขึ้นอยู่กับอายุและสภาพร่างกาย) และควรตรวจระดับวิตามิน D ในเลือดหากสงสัยว่าขาด.
☀️ แสงแดดและวิตามิน D = ตัวช่วยสนับสนุนการทำงานของ Growth Hormone
แม้ว่าวิตามิน D จะไม่ได้กระตุ้น GH โดยตรงเหมือนการออกกำลังกายหรือนอนหลับแต่ “มีบทบาทสำคัญในการทำให้ GH และ IGF-1 ทำงานได้เต็มที่”
อธิบายให้เข้าใจง่าย:
ร่างกายเราผลิตวิตามิน D ได้จากการ รับแสงแดดอ่อนตอนเช้า
วิตามิน D มีผลโดยตรงต่อการทำงานของ ต่อมใต้สมอง (Pituitary gland) ซึ่งเป็นแหล่งสร้าง GH
ยังช่วยให้ ตับและเนื้อเยื่อ สร้าง IGF-1 (Insulin-like Growth Factor 1) ซึ่งเป็น “ตัวช่วยส่งผล” ของ GH
ถ้า GH คือผู้สั่งงาน → IGF-1 คือผู้ปฏิบัติการจริง
🌞 วิธีเพิ่มวิตามิน D แบบธรรมชาติ
วิธี | ระยะเวลา | คำแนะนำเพิ่มเติม |
อาบแดดตอนเช้า | 10–20 นาที | ช่วงเวลา 07.00–09.00 น. โดยไม่ทาครีมกันแดด |
เสริมวิตามิน D3 | 1,000–2,000 IU/วัน | เฉพาะคนที่ตรวจเลือดแล้วขาด |
รับประทานปลา ไข่แดง เห็ดแชมปิญอง | - | เป็นแหล่งอาหารของวิตามิน D ตามธรรมชาติ |
📌 สรุปสั้น ๆ:
แสงแดดในตอนเช้าไม่ใช่แค่ดีต่อกระดูก แต่ยังช่วยให้ร่างกายผลิตวิตามิน Dซึ่งมีบทบาท “เปิดทาง” ให้ฮอร์โมน GH และ IGF-1 ทำงานได้เต็มที่เหมาะกับทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายและชะลอวัย
Comments